วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ระลึกพระคุณ คุณครู

ระลึกพระคุณ คุณครู 
เดือนมิถุนายนของทุกปี จะเป็นเดือนที่ลูกศิษย์ นักเรียน นักศึกษา จะได้มีโอกาสเข้าไปแสดงความเคารพรักและระลึกถึงพระคุณของบูรพาจารย์ที่ตลอดเวลาที่เรียนนั้น ท่านได้คอยอบรม สั่งสอนให้เราเป็นคนดี .. เพื่อนๆได้เตรียมตัวกันบ้างรึยังคะ นัดเพื่อนเก่า สมัยเรียน เข้าไปหาคุณครูกันดีกว่า พูดแบบนี้แล้ว teen.mthai ก็คิดถึงครูเหมือนกันนะเนี่ย ^^ งั้นก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเรื่องราว ประวัติ วันไหว้ครู กันหน่อยดีกว่า
พิธีไหว้ครู การแสดงความกตัญญูต่อผู้ให้ปัญญา
ครูมีความหมายว่า ผู้สั่งสอนศิษย์ หรือ ผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ ซึ่งมีผู้กล่าวว่ามาจากคำว่า ครุ (คะ-รุ) ที่แปลว่า “หนัก” อันหมายถึงความรับผิดชอบในการอบรมสั่งสอนของครูนั้น นับเป็นภาระหน้าที่ที่หนักหนาสาหัสไม่น้อย กว่าคนๆหนึ่งจะเติบโตผู้มีวิชา ความรู้ และเป็นคนดีของสังคม ผู้เป็น จะต้องทุ่มเทแรงกายและแรงใจไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเลยในชีวิตของ คนๆหนึ่ง?นอกเหนือไปจากพ่อแม่ซึ่งเปรียบเสมือน ครูคนแรก ของเราแล้ว การที่เด็กๆจะดำรงชีพต่อไปได้ในสังคม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี ครู ที่จะประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ เพื่อปูพื้นฐานไปสู่หนทางทำมาหากินในภายภาคหน้าด้วย ดังนั้น ครู จึงเป็นบุคคลสำคัญเป็นที่สอง รองไปจากบิดามารดาที่เราทุกคนควรจะได้แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อท่าน เพราะหากโลกนี้ ไม่มีผู้ที่ทำหน้าที่เป็น ครู แล้ว สรรพวิชาต่างๆก็คงสูญหายไปจากพิภพ แม้แต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง ก็ทรงเป็น ครูของโลก พระองค์หนึ่ง ด้วยเหตุนี้เอง การบูชาครู การไหว้ครู จึงเป็นประเพณีสำคัญที่มีมา?แต่โบราณ ถือเป็นพิธีกรรมที่แสดงความเคารพ และระลึกถึงพระคุณของบูรพาจารย์ ครูอาจารย์ผู้ประสิทธิ์วิชาความรู้ให้ ทำให้เราสามารถนำไปประกอบวิชาชีพ สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ในอนาคต

การไหว้ครู ก็คือ การที่ศิษย์แสดงความเคารพ ยอมรับนับถือครูบาอาจารย์อย่างจริงใจว่า ท่านเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมความรู้ ศิษย์ในฐานะผู้สืบทอดมรดกทางวิชาการ จึงพร้อมใจกันปวารณาตัวรับการถ่ายทอดวิชาความรู้ด้วยความวิริยะอุตสาหะ เพื่อให้บรรลุปลายทางแห่งการศึกษาตามที่ตั้งใจเอาไว้ ซึ่งการไหว้ครูนี้ นอกจากจะเป็นธรรมเนียมอันดีงามที่มีส่วนโน้มน้าวจิตใจคนให้รักษาคุณความดี และช่วยธำรงรักษาวิทยาการให้สืบเนื่องต่อไปแล้ว การที่ศิษย์แสดงความเคารพยอมรับนับถือครูตั้งแต่เบื้องต้น ก็มีส่วนทำให้ครูเกิดความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ อยากมอบวิชาความรู้ให้อย่างเต็มที่ และศิษย์เองก็จะมีความรู้สึกผูกพันใกล้ชิด เกิดมั่นใจว่าตนจะมีผู้คุ้มครองดูแล สั่งสอนให้ไปสู่หนทางแห่งความดีงาม และความเจริญก้าวหน้าแน่นอน
พิธีไหว้ครู หรือ การไหว้ครู นี้มีหลายอย่าง เช่น การไหว้ครูนาฏศิลป์ ไหว้ครูดนตรี ไหว้ครูโหราศาสตร์ ไหว้ครูแพทย์แผนไทย เป็นต้น ซึ่งแต่ละอย่างก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไป เมื่อเอ่ยถึง พิธีไหว้ครู เรามักจะหมายถึง การไหว้ครูในสถาบันการศึกษาต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำในช่วงเปิดภาคการศึกษา โดยใน สมัยโบราณมักจะใช้ดอกมะเขือ ดอกเข็ม หญ้าแพรก และข้าวตอกเป็นเครื่องบูชาครูพราะเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายและมีความหมายที่ดี

พระพรหมคุณาภรณ์ได้เขียนในหนังสือธรรมนูญชีวิต ว่าในทางพุทธศาสนา ถือว่า ครูอาจารย์ คือ ทิศเบื้องขวาหมายถึง ผู้ที่ควรเคารพ
ครูมีหน้าที่ต่อศิษย์ตามหลักธรรมอยู่ 5 ประการคือ
1. แนะนำฝึกอบรมให้เป็นคนดี
2. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
3. สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง
4. ส่งเสริมยกย่องความดีงามความสามารถให้ปรากฏ
5. สร้างเครื่องคุ้มภัยในสารทิศ คือ สอนฝึกให้สามารถใช้วิชาเลี้ยงชีพและรู้จักดำรงรักษาตนในอันที่จะดำเนินชีวิตต่อไปด้วยดี
ทางพุทธศาสนาก็สอนให้ศิษย์แสดงความคารวะนับถือตอบครูอาจารย์ 5 ประการเช่นกัน คือ
1. ลุกต้อนรับ แสดงความเคารพ
2. เข้าไปหา เพื่อบำรุง รับใช้ ปรึกษา ซักถาม รับคำแนะนำ ฯลฯ
3. ฟังด้วยดี ฟังเป็น รู้จักฟังให้เกิดปัญญา
4.ปรนนิบัติ ช่วยบริการ
5. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ เอาจริงเอาจัง ถือเป็นกิจสำคัญ

พิธีไหว้ครู ในโรงเรียน
โดยปรกติสถานศึกษามักจัดพิธีไหว้ครูขึ้นในวันพฤหัสบดี สัปดาห์ที่ 2 หรือวันใดวันหนึ่งในราวเดือนพฤษภาคมหรือเดือนมิถุนายนดอกไม้ที่ใช้ในการไหว้ครู ในพิธีไหว้ครูนับตั้งแต่สมัยก่อน จะใช้ดอกไม้หลัก 3 อย่างในการทำพาน ซึ่งดอกไม้้ ความหมายในการระลึกคุณครู ได้แก่
ดอกไม้ – ความหมาย ที่ใช้ใน การ ไหว้ครู
หญ้าแพรก สื่อถึง ขอให้เรียนได้เร็วเหมือนหญ้าแพรก ที่โตได้เร็วและทนต่อสภาพดินฟ้า อากาศ ทนต่อการเหยียบย่ำ ซึ่งเปรียบเสมือน คำดุด่าของครูบาอาจารย์?เปรียบเสมือนเด็กที่มาเล่าเรียน เมื่อได้รับการสั่งสอนก็พร้อมจะเรียนรู้ เหมือนดังหญ้าแพรกที่แม้บางครั้งจะเหี่ยวเฉาไป แต่เมื่อใดที่ได้รับน้ำก็พร้อมจะเติบโตทันที
ดอกเข็ม สื่อถึง ขอให้มีสติปัญญาเฉียบแหลม เหมือนชื่อของดอกเข็ม
ดอกมะเขือ สื่อถึง การเปรียบเทียบว่า มะเขือนั้น จะคว่ำดอกลงเสมอเมื่อจะออกลูก แสดงถึงนักเรียนที่จะเรียนให้ได้ผลดีนั้นต้องรู้จักอ่อนน้อม ถ่อมตน เป็นคนสุภาพเรียบร้อย เหมือนมะเขือที่โน้มลง และดอกงอกงามได้อย่างรวดเร็ว ใช้เป็นสัญลักษณ์เสมือนให้เกิดปัญญาความคิดที่พร้อมจะรับความรู้ได้อย่างรวดเร็ว
ข้าวตอก สื่อถึง ความรู้ที่แตกฉาน เพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว?เหมือนลักษณะของข้าวสาร เปรียบได้กับการที่ครู “คั่ว”นักเรียนคนใดคนหนึ่ง กล่าวคือ “คั่ว”คือการเคี่ยวเข็ญ ว่ากล่าวตักเตือน อบรมสั่งสอนนั่นเอง วิชาความรู้ของนักเรียนเหล่านั้นจะ “แตก”ฉานสามารถนำมาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้
อย่าลืม ผู้มีพระคุณที่ทำให้เรา เติบโต มีความรู้ มีวิชา ได้จนทุกวันนี้นะคะ^^ เราอยู่กับท่านทุกวัน ได้เห็นหน้าท่าน ถึงแม้บางครั้งท่านจะดุ ว่า แต่ท่านก็ทำไปเพราะความหวังดีนะ .. teen.mthai?เชื่อว่าพิธี ไหว้ครู เป็นการเชื่อมโยงสายใยแห่งความผูกพันระหว่างผู้ให้ และ ผู้รับ คือ ครูและศิษย์ อย่างแน่นอน รวมทั้งยังช่วยให้เกิดความรู้สึกที่ดีๆต่อกันด้วย แม้โลกที่ไร้พรมแดนและเทคโนโลยีที่ก้าวไกลเช่นปัจจุบัน แม้เราจะสามารถหาวิชาความรู้ได้เองจากหนังสือ เครื่องคอมพิวเตอร์ สื่ออิเลคทรอนิคส์ต่างๆ ฯลฯ แต่เชื่อว่า คนเราก็ยังปรารถนาจะได้ ครูที่เป็นคน ซึ่งสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเรามากกว่า ครูที่ไร้ชีวิต เพราะโดยแท้จริงแล้ว หน้าที่ของครู มิเพียงเติมเต็ม วิชาความรู้ แก่เราเพื่อประกอบสัมมาชีพเท่านั้น แต่ท่านยังได้จุด ประทีปปัญญา ส่องทางในการดำเนินชีวิตแก่ศิษย์ด้วย

วันแม่

                           แม่เป็นผู้ที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต   ตอนแม่อุ้มท้องแม่ไม่เคยบ่น  แม่เฝ้าทะนุถนอม  แม่ต้องอดทน    ต้องคอยกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อลูก     เพื่อเวลาที่ลูกกำเนิดมาลูกจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง    ด้วยความรักที่แม่มีให้   ไม่มีใครเปรียบเทียบได้   แต่วันเกิดของเราๆกับไปฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆซึ่งเราลืมไปว่าเป็นวันที่แม่เจ็บปวดที่สุด   แม่คือครูคนแรกของลูกๆ   คอยฝึกฝน  คอยพร่ำสอน   คอยชี้นำแนวทางที่ดีให้กับลูกๆ   ยามลูกมีความสุขแม่ก็สุขตามลูก   ยามลูกทุกข์  ลูกเศร้าโศก  ลูกเสียใจ   แม่จะระทมยิ่งกว่า   ยามลูกเจ็บแม่อยากเจ็บแทนลูก   ยามลูกป่วยไข้แม่อดหลับอดนอนเพื่อเฝ้าไข้ลูก   ยามที่แม่ไม่สบายก็เช่นกัน   ลูกๆควรดูแลท่านเหมือนที่ท่านดูแลเรา   ถึงแม่จะลำบาก  จะทำงานหนักแค่ไหนแม่ไม่เคยท้อ   เพียงเพื่ออยากให้ลูกเติบโตมาเป็นคนดี  มีงานมีการทำที่ดี  มีอนาคตที่สดใส   มีครอบครัวที่มั่นคง   เพราะแม่กลัวลูกจะด้อยกว่าคนอื่น   จะมีคนมาดูถูก   เหยียดหยาม  แม้แม่ไม่มีข้าวจะกินแม่ก็เสียสละให้ลูกได้   เพื่อให้ลูกกินอิ่ม    วันไหนที่ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต   วันนั้นแม่จะมีความสุขที่สุด เพราะฉะนั้นลูกทุกคนอย่าทำให้แม่ต้องผิดหวังในตัวลูกๆ    ในบางครั้งลูกจำเป็นต้องใช้เงิน   แต่แม่มีเงินเพียงน้อยนิดแม่ก็ต้องไปหยิบยืมเงินเพื่อให้ลูกได้มีเงินใช้ตามที่ลูกต้องการ  สิ่งใดที่เราช่วยผ่อนเบาภาระแม่ได้    แม่เปรียบดังร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกๆ   ยามลูกสิ้นหวัง   ยามลูกท้อแท้  ยามลูกมีปัญหามากมายเข้ามาในชีวิต   แม่จะคอยให้คำปรึกษาที่ดีแก่ลูกๆ   จะคอยให้กำลังใจ   จะคอยอยู่เคียงข้างลูกๆเสมอ   สิ่งที่แม่พร่ำบ่นลูกๆในทุกๆวัน   เพราะแม่รัก   แม่เป็นห่วง


วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559

พรบ คอมพิวเตอร์

                พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมาย ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งช อ่านเพิ่มเติม

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ประวัติ



ชื่อ ศุภลักษณ์ คล้ายสุข
ชื่อเล่น มายด์
เกิดวันที่ 9 ตุลาคม 2543 อายุ16ปี
อยู่บ้านเลขที่ 11/1 ม.6 ต. บ้านปรก อ.เมืองฯ จ. สมุทรสงคราม
โรงเรียนตอนประถม โรงเรียนเมืองสมุทรสงคราม
โรงเรียนตอนมัธยมต้น โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ สมุทรสาคร
โรงเรียนตอนมัธยมปลาย โรงเรียนถาวรานุกูล